หัวข้อ
- #การออกกำลังกายระยะสั้น
- #การออกกำลังกายแบบแอโรบิก
- #HIIT
- #การออกกำลังกายแบบเข้มข้น
- #การออกกำลังกายสำหรับคนทำงาน
สร้าง: 2024-12-06
อัปเดต: 2024-12-06
สร้าง: 2024-12-06 03:40
อัปเดต: 2024-12-06 23:16
คนในยุคปัจจุบันมักมีภาระงานและตารางเวลาที่ยุ่งเหยิง จึงหาเวลาออกกำลังกายได้ยาก แต่การฝึกฝนแบบช่วงเวลาความเข้มข้นสูง (HIIT: High-Intensity Interval Training) ซึ่งใช้เวลาสั้นแต่มีความเข้มข้นสูงนั้น ได้รับความนิยมอย่างมากในฐานะวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับคนทำงานที่ยุ่ง
การออกกำลังกายแบบนี้ช่วยให้เผาผลาญแคลอรีได้สูงและเสริมสร้างความแข็งแรงได้ในเวลาอันสั้น นอกจากนี้ยังช่วยลดไขมันในร่างกายและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี บทความนี้จะแนะนำแบบฝึกหัดแอโรบิกความเข้มข้นสูงที่ใช้งานได้จริงและมีประสิทธิภาพสำหรับคนทำงานที่ยุ่งพร้อมเคล็ดลับต่างๆ
การออกกำลังกายสำหรับคนทำงาน
HIIT ใช้เวลาเพียง 10-20 นาที แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีเทียบเท่าหรือเหนือกว่าการออกกำลังกายแบบใช้เวลานานกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนทำงานที่ยุ่ง สามารถใช้เวลาช่วงเช้าหรือช่วงพักกลางวันในการออกกำลังกายได้อย่างง่ายดาย และเนื่องจากใช้เวลาไม่นาน จึงช่วยลดความกังวลในการออกกำลังกาย
HIIT ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญแคลอรีไม่เพียงแต่ในระหว่างออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังช่วยเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นหลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้วด้วย
ด้วย "เอฟเฟกต์แอฟเตอร์เบิร์น" (Afterburn effect) ที่แคลอรียังคงถูกเผาผลาญต่อไปแม้หลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้ว ทำให้มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก ซึ่งหมายความว่าการออกกำลังกายที่ใช้เวลาสั้นๆ สามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญแคลอรีได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
การออกกำลังกายแบบนี้จะทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นและกลับสู่สภาวะปกติอย่างรวดเร็วซ้ำๆ ทำให้ระบบหัวใจและปอดแข็งแรงขึ้น
ในระยะยาวจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เพิ่มความอดทน และปรับปรุงความสามารถในการควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นช้าลงในขณะพักและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
HIIT ช่วยเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยรักษาหรือเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ทำให้เพิ่มอัตราการเผาผลาญขณะพัก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการควบคุมน้ำหนักและการปรับรูปร่าง นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงอย่างต่อเนื่องและเพิ่มความมั่นใจในการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายความเข้มข้นสูงจะช่วยกระตุ้นการหลั่งเอนโดรฟิน ทำให้ลดความเครียดและบรรเทาความเหนื่อยล้าทางจิตใจ ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพจิตของคนทำงาน ช่วยฟื้นฟูความกระปรี้กระเปร่าของร่างกายและให้ความรู้สึกสงบทางจิตใจ
ทำท่าทางแต่ละท่าอย่างรวดเร็วและหนักหน่วงเป็นเวลา 30 วินาที แล้วพัก 15 วินาที จำนวนเซ็ตสามารถปรับได้ตามความแข็งแรงและเป้าหมายของแต่ละบุคคล
1. จั๊มปิ้งแจ็ค: กระโดดพร้อมกับเหยียดขาออกและยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ
ผลลัพธ์: ใช้กล้ามเนื้อส่วนใหญ่ของร่างกาย ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นและเผาผลาญแคลอรี
2. เมาท์เทนไคล์มเบอร์: ท่าคล้ายกับการดันพื้น แต่สลับการงอเข่าเข้าหาหน้าอกอย่างรวดเร็ว
ผลลัพธ์: เสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องและขา และปรับปรุงระบบหัวใจและปอด
3. เบอร์ปีเทสต์: เริ่มจากท่านอนคว่ำ ทำท่าดันพื้น จากนั้นกระโดดขึ้นไปยืน
ผลลัพธ์: การออกกำลังกายแบบเต็มรูปแบบ ช่วยเผาผลาญแคลอรีและเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดีเยี่ยม
4. สเก็ตเตอร์จั๊มป์: กระโดดไปมาพร้อมกับสลับขาไปด้านหลัง
ผลลัพธ์: ช่วยพัฒนาความสมดุลและเสริมสร้างกล้ามเนื้อขา
5. ไฮนี่ย์: วิ่งอยู่กับที่โดยยกเข่าให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผลลัพธ์: ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นและกระตุ้นกล้ามเนื้อหน้าท้อง
หากเป็นครั้งแรกที่ออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูงหรือร่างกายไม่แข็งแรงพอ ควรเริ่มต้นด้วยท่าทางที่เบาๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นขึ้น
1. เดินเร็ว (30 วินาที): เดินเร็วๆ ในบ้านหรือกลางแจ้ง
ผลลัพธ์: การออกกำลังกายแอโรบิกพื้นฐานเพื่อเพิ่มความแข็งแรงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
2. สเต็ปทัช (30 วินาที): ย้ายขาไปด้านข้างพร้อมกับแกว่งแขนไปมา
ผลลัพธ์: ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นโดยไม่ทำให้เข่าบาดเจ็บ
3. สควอตแบบใช้เก้าอี้ (30 วินาที): ยืนอยู่หน้าเก้าอี้แล้วนั่งลงและลุกขึ้น
ผลลัพธ์: เสริมสร้างกล้ามเนื้อขาและลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่เข่า
4. ปั๊มแขน (30 วินาที): แกว่งแขนไปมาอย่างรวดเร็วอยู่กับที่
ผลลัพธ์: เสริมสร้างกล้ามเนื้อส่วนบนและปรับปรุงระบบหัวใจและปอด
5. ไซด์ลองจ์ (30 วินาที): เหยียดขาไปด้านข้างพร้อมกับคุกเข่าลง
ผลลัพธ์: ปรับปรุงความยืดหยุ่นและความสมดุลของขา
1. การยืดกล้ามเนื้อที่โต๊ะทำงาน: นั่งบนเก้าอี้หลังตรงแล้วเอียงตัวไปซ้ายและขวา
ผลลัพธ์: ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของหลังและไหล่และช่วยปรับท่าทาง
2. การขึ้นลงบันได: ขึ้นลงบันไดเป็นเวลา 5 นาที
ผลลัพธ์: เป็นการออกกำลังกายที่ง่ายแต่เผาผลาญแคลอรีได้สูง
3. เดินและกระโดดอยู่กับที่: เดินอยู่กับที่แล้วกระโดดเบาๆ
ผลลัพธ์: การออกกำลังกายแอโรบิกที่มีประสิทธิภาพแม้ในพื้นที่จำกัด
ดังนั้น แม้แต่คนทำงานที่ยุ่งก็สามารถใช้เวลาเพียง 10-15 นาทีในการดูแลสุขภาพและความแข็งแรงของตนเองได้
การฝึกฝนแบบช่วงเวลาความเข้มข้นสูงให้ผลลัพธ์สูงเมื่อเทียบกับเวลาที่ใช้ และมีข้อดีหลายประการ เช่น การลดน้ำหนัก การเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และการปรับปรุงระบบหัวใจและปอด เลือกแบบฝึกหัดที่เหมาะสมกับตัวเองและทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีสุขภาพดีและมีชีวิตชีวาแม้ในชีวิตประจำวันที่ยุ่งเหยิง
ความคิดเห็น0